วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

shopbaaholic

shopbaaholic


ถ้าคุณกำลังจมอยู่ในกองหนี้อันเกิดจากการช้อปปิ้งเพลินไปหน่อย แถมข้าวของที่ซื้อมาก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณ อยากได้เสียด้วยซ้ำ รออีกสักพัก ไม่นานนี้จะมียารักษาอาการโรคบ้าช้อปปิ้งให้สาวนักช็อปอย่างคุณแล้วล่ะ

นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Stanford ในสหรัฐฯ กำลังศึกษาเพื่อคิดค้นตัวยาที่คล้ายคลึงกับยาระงับอาการ เครียด Prozac แต่ว่ามีฤทธิ์ระงับอาการอยากช้อปปิ้งสุดๆ ซึ่งอาการบ้าช้อบปิ้งดังกล่าวมีชื่อทางการแพทย์ว่า Onionmania (โรคบ้าซื้อ) แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่า การรักษาอย่างได้ผลนั้น ยังไม่สามารถกระทำ ได้ในเร็วๆ นี้ 

การช้อปปิ้งเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง 

ผู้ป่วยอีกรายให้ความเห็นว่า การมีเงินและการได้ช้อปปิ้งเป็นยาเสพติดสำหรับพวกเขา เพราะ ทำให้รู้สึกดีขึ้นและผ่อนคลายเมื่อได้ใช้เงินซื้อของ รู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจ เป็นผู้อยู่ในฐานะควบคุม สิ่งต่างๆ และเป็นผู้มีจิตใจดี แต่ในไม่ช้า ก็เหมือนรู้สึกตื่นจากความฝัน


นักวิจัยกล่าวว่า การเสพติดช้อปปิ้งนั้นมาในหลายรูปแบบ บางรายขอให้ได้เดินเข้าไปห้างสรรพสินค้า เดินดูของได้นานเป็นชั่วโมงๆ บางรายเป็นวันๆ บางรายมีอาการนอนไม่หลับจนกว่าจะได้สั่งซื้อสินค้า จากทางทีวีช่องขายของ 


สำหรับบุคคลที่เข้าข่ายส่ออาการว่าจะเป็นโรคบ้าช้อปปิ้งนั้น Dr. Pollak ระบุว่า ส่วนมากมักจะเป็นผู้หญิง และเป็นพวกที่มีความรักนับถือในตัวเองต่ำ แต่มีความเครียดและความวิตกกังวลสูง มักชอบซื้อของ ประเภทของสวยงาม หรือออกแนวแฟชั่นทันสมัย เช่น เพชรพลอย เครื่องประดับ, เครื่องสำอาง, หรือเสื้อผ้า ส่วนมากมักจะเป็นคนทานเก่งด้วย บางทฤษฎีระบุว่า พวกที่เป็นโรคบ้าช้อปนั้น อาจติด การพนัน หรือติดการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำให้ตนเองมีความสบายใจ มีความ สำราญใจ


สำหรับยาที่กำลังคิดค้นเพื่อแก้อาการโรคบ้าซื้อนั้น Dr. Pollak เปิดเผยว่า จะคล้ายๆ Prozac คือมีสาร selective serotonin อยู่ด้วย เพราะในสมองของคนที่มีอาการเครียด วิตกกังวลจนผิดปกติ มักจะมีสาร serotonin น้อย ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบรรเทาอารมณ์ให้ดีขึ้น สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคบ้าซื้อนั้น ควรฝึกตนเองให้มีวินัยในการใช้เงิน โดยทำลายบัตรเครดิตเสีย หรือหลีกเลี่ยงการเข้าห้างสรรพสินค้า หรืออาจปรึกษาจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ


อ่านแล้ว สงสัยจังว่า... 
เราเป็นหนึ่งในบรรดาผู้มีอาการเป็นโรคบ้าช้อป หรือเปล่า?

ถ้าหากคุณชอบซื้อของ หรือบางครั้งซื้อของโดยที่คุณไม่ได้ต้องการสิ่งนั้นจริง หรือซื้อของที่แพงเกินฐานะ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นโรคบ้าช้อป แต่ว่า คุณอาจมีปัญหากับโรคดังกล่าว ถ้าคำตอบของคุณ มีคำว่า "ใช่" อยู่มากกว่า 1 ข้อ: 


1. คุณเดินเข้าไปซื้อของ ทั้งๆ ที่คุณไม่ต้องการจะซื้อ หรือสัญญากับตัวเองมั่นเหมาะแล้วว่าจะไม่ซื้อของ

2. คุณรู้สึกตื่นเต้น หรือมีอารมณ์สดใสซาบซ่าทุกครั้งที่ได้ซื้อของ หรือแม้แต่สั่งซื้อของทางอินเตอร์เน็ต

3. คนในครอบครัว, เพื่อนฝูง หรือ ญาติพี่น้องของคุณแสดงความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องการใช้จ่าย เงินทองและเวลาที่สูญเสียไปกับการช้อปปิ้งของคุณ

4. การช้อปปิ้งแต่ละครั้งเป็นเหตุให้คุณจมปลักอยู่ในกองหนี้สินมากเข้าทุกที

5. คุณตั้งใจว่าจะไม่ซื้อ แต่พอเห็นก็อดที่จะซื้อไม่ได้

6. สมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิตหลายๆ ที่ เพื่อจะได้มีวงเงินไปช็อปปิ้งมากๆ

เรามีทางแก้ให้คุณหยุดอาการนี้ค่ะ เลิกใช้บัตรเครดิตทุกชนิด และห้ามทำบัตรเอทีเอ็มด้วย ถ้ามีอยู่ให้งดใช้ไปเลย บอกเพื่อนฝูงคนใกล้ชิด ว่าห้ามให้คุณยืมเงินเด็ดขาด แล้วคุณอย่ากลบคำเสียเองล่ะ ให้พ่อแม่หรือคนในครอบครัว ควบคุมพฤติกรรมชอปปิ้งของคุณ เลิกไปเดินตามห้าง หรือแหล่งชอปปิ้ง หางานอดิเรกที่คุณชอบไว้ทำยามว่าง จะได้อยู่ติดบ้านบ้าง อย่าไปสนใจ กับสิ่งยั่วยุให้คุณต้องควักเงินซื้อ เช่น ป้ายลดราคานี่ล่ะตัวดี แล้วทำเมินเจ้าพวก โปรโมชั่นต่างๆ ซะ ต้องทำให้ได้ ถึงแม้จะเป็นการฝืนใจคุณอย่างมากก็ตาม เตือนตัวเองอยู่เสมอล่ะ และต้องทำตามคำแนะนำนี้ให้ได้ จะได้หายขาดจาก อาการคลั่งชอปปิ้ง เสียทีนะคุณ และ หาวิธีจัดการกับเงินในกระเป๋าอย่างถูกวิธีและชำระหนี้สินของคุณให้เรียบร้อย ก่อนที่จะถลำลึกไป มากกว่านี้นะคะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น